แม้ความมหัศจรรย์ของนครเปตรา (Petra) อวดความอลังการมาเนิ่นนาน แต่จุดเปลี่ยนสำคัญอย่างหนึ่งในยุคร่วมสมัยประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เมืองโบราณนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวดังไปทั่วโลก คือ ภาพยนตร์เรื่อง Indiana Jones and the Last Crusade ของสตีเฟ่น สปีลเบิร์ก ที่ออกฉายเมื่อปี 1989 

แฮริสัน ฟอร์ด มาดเท่สวมหมวกใบเก่ง เสริมสร้างจินตนาการให้คนส่วนใหญ่ เห็นเป็นภาพอินเดียน่า โจนส์ วิ่งห้อไปตามหุบเขาแคบๆ แล้วไปโผล่อยู่หน้ากรอบวิหารสีชมพูอมแดงชวนตะลึงของเทรชเชอรี (Treasury) จากนั้นก็ก้าวเข้าไปข้างในเพื่อพิสูจน์ว่า ตัวเองนั้นฟิตปั๋งพอจะเสาะหาจอกศักดิ์สิทธิ์ได้

ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่คุณจะพบเจอเมื่อก้าวเข้าไปในเทรชเชอรี คือ ห้องเปล่าๆ ที่ไม่มีจอกศักดิ์สิทธิ์อะไรทั้งนั้น

แต่ส่วนที่ปรากฎในอินเดียน่า โจนส์ ก็วิเศษสุดเหมือนหนังได้เหมือนกัน เพราะใครๆ ก็ลิ้มรสความตื่นตาตื่นตะลึงของ "ซิก" (Siq) รอยแยกแคบๆ ตรงทางเข้าเทรชเชอรีได้ อาจจะต่างกับอินเดียน่า โจนส์ ตรงที่คุณจะได้สำรวจลึกเข้าไปอีก ทั้งลานบูชายัญ (High Place of Sacrifice), วัด และสุสานอีกมากมาย

มาดูในแง่ของประวัติศาสตร์จริงกันบ้าง นักสำรวจชาวสวิสในศตวรรษที่ 19 นามว่า Johann Ludwig Burckhardt เป็นผู้สดับข่าวลือว่า มีเมืองโบราณซ่อนอยู่ในหุบเหวแห่งนี้ ที่แม้แต่ชนเผ่าเบดูอินก็ยังไม่รู้จัก

โดยสิ่งที่เขาค้นพบ คือ นครสาบสูญอายุสองพันปีของชนเผ่านาบาเทียน (Nabataean) ซึ่งเดินทางค้าขายไปทั่วดินแดนอาหรับ นับแต่นั้นผู้คนนับล้านจึงตามรอยนักสำรวจดังเข้าสู่นครเปตราแห่งนี้ 

แน่นอนว่าการไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก คุณจะเจอกับปริมาณผู้มาเยือนหนาแน่นจนแทบไร้ที่ว่าง แต่ยังมีวิธีหลบเลี่ยงนักท่องเที่ยวพลุกพล่านอยู่บ้าง นั่นคือ ไม่ต้องรีบร้อน แกร่วรอจนใกล้เวลาปิด

แล้วคุณจะพบว่า ตัวเองเคว้งคว้างอยู่ในนครโบราณ ถนนปูหินเวิ้งว่างที่เคยเป็นเส้นทางค้าขายนั้น มีเพียงภูตผีจากอดีตกาลมาอยู่เป็นเพื่อน (แต่ไม่ต้องกังวลใจไปหรอก เพราะจริงๆ แล้วยังมีทัวร์ภาคกลางคืน ให้เหล่านักท่องเที่ยวชมความงามอีกรูปแบบ เรียกว่า Petra by Night)

ข้อมูลเพิ่มเติม
การท่องเที่ยวประเทศจอร์แดน visitjordan.com