Lonely Planet

Lonely Planet

10 เรื่องพื้นฐาน สำหรับมือใหม่ไปเที่ยวจอร์แดน
asia

10 เรื่องพื้นฐาน สำหรับมือใหม่ไปเที่ยวจอร์แดน

เรื่องควรรู้ ก่อนไปดินแดนทะเลทรายอลังการ

1. พกพาสปอร์ตไปเล่มเดียว ไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า
จอร์แดนเป็นหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวไทย ไปเที่ยวได้แบบไม่ต้องยุ่งยากเรื่องวีซ่า เพราะสามารถขอ Visa on Arrival (VOA) ได้ที่สนามบินปลายทาง พำนักได้ไม่เกิน 30 วัน มีอัตราค่าธรรมเนียม 40 ดีนาร์จอร์แดน (ประมาณ 1,737 บาท) **แต่ทั้งนี้ภายหลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อาจต้องตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง ว่ามีการขอเอกสารหรือการรับรองใดๆเพิ่มเติมในการเดินทางหรือไม่
2. บินตรงก็มี หรือแวะก่อนก็ได้
สายการบิน Royal Jordanian ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติจอร์แดน ให้บริการบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิไปสู่ Queen Alia International Airport ในกรุงอัมมาน โดยใช้เวลาบินตรงจากไทยประมาณ 8.45 ชั่วโมง หรือเลือกเดินทางแวะพัก 1 ครั้ง ซึ่งมีสายการบินในแถบตะวันออกกลางให้บริการหลายสายการบิน เช่น คูเวต , โอมาน , เอมิเรตส์ , กัลฟ์แอร์ (บาห์เรน) เป็นต้น
3.ประเทศเล็ก ใช้เวลาไม่นาน
จอร์แดนไม่ใช่ประเทศกว้างใหญ่มากนัก ถ้าขับรถยนต์แบบจริงจัง คุณอาจใช้เวลาได้วันเดียวจากเหนือจรดใต้ของประเทศ ดังนั้นการท่องเที่ยวในดินแดนทะเลทรายแห่งนี้ ถ้ามีเวลาประมาณ 5-7 วัน ก็พอจะครอบคลุมไฮไลท์สำคัญๆของการท่องเที่ยวได้ในระดับหนึ่งแล้ว เว้นเสียแต่ว่า คุณชอบใช้เวลาละเลียดอยู่ในเมืองต่างๆนานๆ
4.ซื้อทัวร์ก็ดี เที่ยวเองก็ได้
การท่องเที่ยวผ่านบริษัทตัวแทนนำเที่ยวนั้นชัดเจนอยู่แล้วว่าคุณสามารถประหยัดเวลา เพราะไม่ต้องวางแผนอะไรมาก และยังสะดวกในการติดต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น รวมถึงการมีไกด์มืออาชีพที่จะบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ได้ครบถ้วน
ส่วนการท่องเที่ยวด้วยตัวเองในจอร์แดนก็ไม่ยากนัก โดยเฉพาะคนที่ชอบขับรถเที่ยว เพราะการเดินทางภายในประเทศที่ใช้รถยนต์เป็นหลัก มีบริษัทเช่ารถที่มีมาตรฐานให้บริการ ถนนหนทางถือว่าค่อนข้างดี มีช่วงเดินทางข้ามเมืองไกลๆที่แทบไม่ค่อยมีรถ ยกเว้นการจราจรในกรุงอัมมาน ที่อาจทำให้คุณปวดหัวได้บ้างเล็กน้อย

5. ภาษา ไม่ใช่ปัญหา
จอร์แดนเป็นประเทศที่มีชาวตะวันตกเดินทางไปเที่ยวจำนวนมาก กล่าวได้ว่า รายได้หลักของประเทศ มีเรื่องการท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นตามโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ คุณจะพบว่าชาวจอร์แดนสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับที่ดี


6.ค่าใช้จ่ายรายวัน
ค่าครองชีพในจอร์แดนไม่สูงมากนัก ถ้าเดินทางกันเองเลือกที่พักสไตล์เกสต์เฮ้าส์ โรงแรมเล็กๆ กินอาหารตามร้านทั่วไป ซื้อจากริมทางของชาวบ้าน แล้วนั่งขนส่งสาธารณะ คุณอาจใช้จ่ายประมาณวันละ 2,000 บาทเท่านั้นเอง แต่ถ้ายกระดับด้วยโรงแรมระดับกลาง กินในร้านอาหารที่ดูดีขึ้นมาหน่อย รวมค่ารถเช่า หรือค่าบริการทัวร์ ก็ตกวันละประมาณ 5,000 บาท แต่ถ้าหรูเอาให้สุด โรงแรมระดับ 5 ดาวในจอร์แดน ก็มีให้เลือกใน ราคาคืนละหลายพัน-หมื่น บาท

ส่วนใครใช้บริการบริษัทนำเที่ยว ทริปจอร์แดนแบบพอหอมปากหอมคอ ก็มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นราว 4 หมื่นบาท ซึ่งนับว่าไม่แพงเลยหากเทียบกับการเดินทางไปเยือนดินแดนอารยธรรมสำคัญระดับโลก
7.ฤดูกาลน่าเที่ยว
ฤดูท่องเที่ยวจอร์แดน ประมาณกันยายน-ตุลาคม และ มีนาคม- พฤษภาคม จะเป็นช่วงที่มีอากาศไม่ร้อนมาก แต่ถ้าไปช่วงฤดูหนาว พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ข้อเสีย คือ ช่วงกลางคืนในทะเลทรายจะมีอากาศหนาวมาก ดังนั้น การไปเที่ยวจอร์แดน ควรตรวจสอบสภาพอากาศให้ดี เสื้อแจ็คเก็ต ผ้าพันคอ เสื้อผ้าที่กันแดดจัดๆ และกันลมหนาว อาจเป็นสิ่งจำเป็นที่คุณจะได้ใช้ภายในวันเดียวกัน
8.ความปลอดภัย
จริงอยู่ที่ถ้าดูภูมิศาสตร์ของจอร์แดนแล้ว เสมือนอยู่ในวงล้อมของประเทศที่มีปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นอิสราเอล อิรัก หรือซีเรีย (แถมยังมีพื้นที่ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์) แต่จอร์แดนเป็นประเทศที่วางตัวเป็นกลางทางการเมืองระหว่างประเทศ จึงไม่ค่อยมีปัญหากับชาติใด คล้ายกับเป็นพื้นที่รัฐกันชน ที่เว้นไว้ไม่ให้มีความขัดแย้ง

ดินแดนแห่งนี้จึงเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันและยุโรปไปเที่ยวกันมาก แม้แต่กองถ่ายภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดก็นิยมใช้จอร์แดน (ทะเลทรายวาดิรัม) เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อยู่บ่อยๆ ดังนั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจ

อัธยาศัยไมตรีของชาวจอร์แดนก็นับว่าดีเยี่ยม มักมอบรอยยิ้ม การต้อนรับให้ผู้มาเยือนเสมอ โดยเฉพาะหากรู้ว่าเป็นคนไทย เพราะคนจอร์แดนจำนวนไม่น้อยก็ชอบมาเที่ยวเมืองไทยเช่นกัน
9.อาหารการกิน
อาหารของจอร์แดน ก็เหมือนกับประเทศอาหรับทั่วไป ที่ไม่มีเนื้อหมูแน่ๆ แต่มีไก่ วัว แกะ (และปลาในเมืองริมทะเลตอนใต้) มีผักสด ผักดอง มะเขือเทศฉ่ำๆ ซึ่งเรียกได้ว่า อร่อยพอสมควร และในโรงแรมใหญ่ๆก็มีอาหารสไตล์ตะวันตกให้ได้กินทุกแห่ง แต่ถ้าอยากลิ้มลองอาหารท้องถิ่น ไปแล้วลองหาเมนูที่เรียกว่า “Mansaf” เป็นอาหารประจำชาติจอร์แดน ทำจากแกะหมักโยเกิร์ต เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าว นอกจากนี้ในจอร์แดน มีเบียร์ที่ผลิตเองยี่ห้อดังอย่าง Petra หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นคนที่กินยากสักหน่อย เตรียมเครื่องปรุงรสจากเมืองไทยติดตัวไว้บ้างก็ได้ เพราะอาหารสไตล์จอร์แดเนียน จะอร่อยถูกปากประมาณสองวันแรก หลังจากนั้น อาการก็จะเริ่มซ้ำๆ แล้วคุณจะเริ่มโหยหาอาหารรสไทย
10.ซื้ออะไรดี
ของฝากจากจอร์แดน มีอะไรให้เลือกมากมาย ตามแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ สามารถเลือกสินค้าที่ระลึกที่สอดคล้องกับสถานที่นั้นๆได้ เช่น เมืองโบราณเพตรา ทะเลทรายวาดิรัม ซึ่งล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก
ของฝากอีกประเภท คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณจากเกลือ หรือโคลน อย่าลืมว่า เกลือจากทะเลเดดซีนั้น มีแร่ธาตุที่บำรุงสุขภาพผิวได้อย่างน่าอัศจรรย์
ข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวประเทศจอร์แดน

visitjordan.com
Tags: