ทำไมต้องไปเที่ยวอุบลราชธานีในฤดูร้อน ?

เสน่ห์ฤดูร้อนของเมืองอุบล

ดินแดนที่อยู่ด้านตะวันออกสุดของประเทศไทยอย่างอุบลราชธานี เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย แต่ผู้คนมักจะนิยมไปกันในฤดูหนาวเสียมากกว่า โดยเฉพาะผาชนะได ที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นเป็นที่แรกของประเทศ
อย่างไรก็ตามอุบลราชธานีก็สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู ซึ่งในฤดูร้อนเองก็ไม่น้อยหน้า ด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่จะ “ผุด” ขึ้นมามากมายท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุนี้

นับเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดเป็นประจำทุกปี ในฤดูแล้งตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนพฤษภาคม น้ำในแม่น้ำโขงนั้นจะเหือดแห้งลงไปจนบรรดาแก่งหินและหาดทรายที่เคยอยู่ใต้น้ำนั้นโผล่ขึ้นมา เกิดแหล่งท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขงขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางเข้าไปสัมผัสกับประติมากรรมจากธรรมชาติสุดตระการตา

สามพันโบก บางคนก็ขนานนามว่าเป็นแกรนด์แคนยอนของเมืองไทย เพราะมีลักษณะเป็นแก่งหินรูปร่างแปลกตาที่เกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำมาเป็นเวลาเนิ่นนาน ในภาษาท้องถิ่น คำว่า “โบก” นั้นหมายถึง หลุม หรือ แอ่ง ที่เกิดตามธรรมชาติ

แค่เดาจากชื่อก็พอจะรู้ได้แล้วว่าที่สามพันโบกจะมีทั้งหลุมและแอ่งเยอะแค่ไหน

ความงามริมแม่น้ำโขงในอุบลราชธานีไม่ได้มีแค่สามพันโบก ยังมีอีกหลายจุดที่พบว่ามีแก่งหินที่คล้าย ๆ กันอีก เช่นที่ แก่งหินงาม ในอำเภอนาตาล อยู่ทางเหนือของสามพันโบกโดยใช้เวลาขับรถประมาณ 20 นาที มีก้อนหินสูงคล้ายกับหน้าผาสูงชันที่มาพร้อมริ้วลวดลายบนพื้นผิวดูคล้ายกันแกรนด์แคนยอนเลยทีเดียว

นอกจากบรรดาประติมากรรมก้อนหินแล้ว ริมแม่น้ำโขงในช่วงหน้าแล้วยังมีเนินทรายขนาดใหญ่ให้แวะสัมผัสอีกบรรยากาศราวกับอยู่ชายหาดริมทะเล กับสถานที่ที่มีชื่อว่า หาดหงส์ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสามพันโบกเท่าไร แนะนำให้นั่งเรือไปเพราะจะได้ซึมซับบรรยากาศริมแม่น้ำโขงด้วย ความสูงชันของเนินทรายแห่งนี้ทำให้ดูคล้ายกับทะเลทรายในต่างแดน แต่ที่ หาดทรายสูง นั้นมีมีหาดทรายเรียบ ๆ ให้เดินเล่นแล้วได้อารมณ์เหมือนอยู่ริมทะเล

ในเมื่อไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขงทั้งที ก็อย่าลืมแวะไปที่วัดสิรินธรวราราม ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาริมแม่น้ำโขงในพื้นที่อำเภอสิรินธร ที่ใครต่อใครต่างเรียกกันว่าเป็น วัดเรืองแสง เพราะในยามค่ำคืนนั้นจะงดงามเป็นพิเศษโดยเฉพาะบริเวณด้านหลังอุโบสถที่จะมองเห็นต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสงเป็นสีเขียว ตัดกับแสงไฟทีทองระยิบระยับรอบ ๆ